ครีเอเตอร์ดิจิทัล facebook คืออะไร คนคนไม่ใช่น้อยเลือกที่จะดำเนินการสายนี้ เพราะเหตุว่าเป็นสายครีเอทีฟที่ได้ใช้อีกทั้งความถนัดด้านภาษาแล้วก็ความคิดริเริ่ม ซึ่งการเป็น Content Creator เป็นอาชีพที่สนุกสนาน สามารถทำเป็นไม่ว่าจะเป็นงานประจำหรืองาน Freelance ในที่นี้เลยทำให้มีนานาประการคนพอใจในอาชีพนี้และก็ปรับปรุงความถนัดเพื่อมาสมัครงานในอาชีพนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เพราะว่ามีมนุษย์งานคนไม่ใช่น้อยเดินเข้าสายอาชีพของการเป็น Content Creator ต่างคนต่างมีสไตล์ของตนที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ความนึกคิด สไตล์การเขียน ด้วยเหตุนั้นลักษณะของงานที่ออกมาของแต่ละคนก็แตกต่างกัน อยู่ที่ว่าแบรนด์หรือธุรกิจถูกใจ Content แบบไหนก็จะว่าจ้างผู้ที่ถนัดในอย่างงั้นๆ
และก็ด้วยเหตุผลที่ว่ามากมายคนพอใจในงานสายนี้ เลยทำให้การแข่งขันชิงชัยค่อนข้างจะสูง แต่ละคนก็เลยจะต้องหมั่นปรับปรุงความถนัดของตนเองให้หนักแน่นขึ้นแล้วก็พร้อมที่จะพรีเซนเทชั่นมันออกมาอย่างมาก
วันนี้ CareerVisa ก็เลยจะมาเปิดแนวทาง ทำเช่นไรให้พวกเราแปลงเป็น Content Creator ที่ดี และก็เก่งในแบบของตน มาทดลองดูกัน
8 วิธี ครีเอเตอร์ดิจิทัล facebook คืออะไร ทำอย่างไรให้เรากลายเป็น Content Creator ที่เก่งแบบไม่เหมือนใคร
1) อ่านข่าวบ้านเรือนแต่ละวัน : อย่างที่รู้กันว่า Content Creator เป็นผู้ที่จำเป็นต้องเล่าให้ผู้อื่นฟังหรืออ่าน โดยเหตุนี้พวกเราจึงต้องควรที่จะจำต้องติดตามข่าวชาติบ้านเมือง ตามเทรนด์อยู่ตลอด เพื่อได้เป็นคนแรกๆที่เข้าใจ และก็พร้อมเอามาเล่าให้คนอื่นฟัง ยิ่งพวกเรารู้มากมากแค่ไหน ก็ยิ่งดีแค่นั้น
2) หมั่นเขียนอยู่เป็นประจำ : ถ้าเกิดพวกเราเป็น Content Creator สายเขียน อย่าลืมที่จะใช้เวลา 10-15 นาที ในแต่ละวัน ได้ทดลองเขียนอะไรสักอย่างออกมาในภาษาของตนเอง ทดลองฝึกฝนแนวทางการเล่าในแบบของตนเอง และก็ปรับให้เป็นการเล่าที่มีคุณภาพมากขึ้น สามารถเป็นทั้งยังการเขียนบล็อกอย่างเป็นจริงเป็นจัง หรือจะเขียนสมุดบันทึกให้ตนเองอ่านก็ได้
3) เล่าเรียนอุตสาหกรรมที่ตนเองดำเนินการอยู่ : ถ้าเกิดพวกเราจำเป็นต้องทำ Content ในอุตสาหกรรมไหน ให้ทำความเข้าใจอุตสาหกรรมนั้นๆอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากว่าทุกการเขียนเป็นการเล่าเรื่องรวมทั้งบอกเนื้อหาของสิ่งๆหนึ่ง ถ้าหากพวกเราปราศจากความรู้เรื่องในสิ่งนั้นมากพอ พวกเราก็ไม่สามารถเล่าสิ่งนั้นออกมาได้ หรือทำให้ผู้อื่นรู้เรื่องอย่างแม่นยำได้นั่นเอง
4) หาจุดแข็งหรือสไตล์ของตนแล้วก็เสนอออกมาให้ได้ : ในโลกของการทำงาน มี Content Creator อยู่มากมายคนมากมายๆแล้วก็หากพวกเรามีผลงานที่ภาษาทางการราวกับทุกคน มันก็อาจจะไม่มีอะไรที่สะดุดตาไปกว่าคนไหนกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทดลองหาสไตล์ของตนเองหรือขั้นตอนการเสนอในแบบของตนให้เด่นรวมทั้งเป็นเอกลักษณ์
5) นำรายละเอียดที่น่าดึงดูดมานำเสนอในรูปแบบใหม่ : ไม่ผิดที่พวกเราจะนำรายละเอียดของบุคคลอื่น มานำเสนอในลักษณะของพวกเรา ครีเอเตอร์ดิจิทัล facebook คืออะไร ซึ่งดีเสียอีกที่พวกเราสามารถนำรายละเอียดที่น่าดึงดูดอยู่แล้ว มาทำให้มันน่าดึงดูดเพิ่มมากขึ้น หรือมาบอกต่อเนื่องจากว่ามันเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการเล่าต่อ แม้กระนั้นอย่างไรก็ดี อย่าลืมให้เครดิตหรือบอกที่มาของข้อมูลหรือรายละเอียด เพื่อเป็นการให้เกียรติผู้ครอบครองรายละเอียดนั้นๆด้วย
6) รู้เรื่องจุดหมายของตน : อย่าลืมตั้ง KPIs ของตนเองว่า จุดหมายสำหรับการสร้าง Content คราวนี้ พวกเราสร้างไปเพื่ออะไร อย่างเช่น เพื่อทำให้คนรู้เรื่องเกี่ยวกับหนังประเด็นนี้อย่างถี่ถ้วนและก็มีการบอกต่อหรือสร้างคอนเทนต์ต่อ หรือเพื่อได้ยอดแชร์มากยิ่งกว่า 1,000 แชร์ในช่วงเวลา 30 วัน ฯลฯ เพียรพยายามมีเป้าหมายทุกคราว จะก่อให้การเขียนนั้นออกมาอย่างมีแบบแผน และก็พวกเราจะตั้งมั่นทำมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
7) เปิดใจให้กว้างกับทุกๆจังหวะที่เข้ามา : อย่าปิดตนเองหรือรู้สึกว่าตนเองรู้มากที่สุด แต่ว่าให้เปิดใจกับวิชาความรู้ใหม่ๆจังหวะใหม่ๆที่เข้ามา หรือแม้กระทั้งผู้ที่สามารถสอนพวกเราได้ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ อย่าเป็นแม้กระนั้นนักเล่าเรื่อง แม้กระนั้นให้พวกเราเป็นคนฟังที่ดี และก็เก็บเกี่ยววิชาความรู้ให้ได้มากที่สุด
8) ตั้งปัญหากับทั้งหมดทุกอย่าง : ให้ประพฤติตนเป็นเจ้าหนูจำไม ที่มิได้ไหลตามทุกสิ่งอยู่เสมอเวลา เพียงพวกเราจำเป็นต้องเสนอคำถามให้เป็น หมั่นเสนอคำถามกับหลายๆสิ่ง เนื่องจากว่าหาคำตอบที่ลึกที่สุด รวมทั้งทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด แม้พวกเราสามารถทำสิ่งนี้ได้ ก็จะก่อให้พวกเราเล่าหรือออกความคิดเห็นในหัวข้อนั้นๆได้ละเอียดแล้วก็น่าดึงดูดมากเพิ่มขึ้นนั่นเอง
Content Creation vs Content Curation เป็นยังไง? แบบไหนดีกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค?
‘คอนเทนต์’ นอกเหนือจากที่จะสำเร็จผลิตขึ้นมาจากความสร้างสรรค์จากคอนเทนต์ครีเอเตอร์แล้ว ครีเอเตอร์ดิจิทัล facebook คืออะไร ยังเรียกว่าเป็นวัตถุดิบหลักในการทำ social media marketing เลยก็ว่าได้ รวมทั้งที่สำคัญถ้าเกิดคอนเทนต์ออกมาดี ยังช่วยทำให้ perfomance บนโซเชียลเน็ตเวิร์คออกมาดีอีกด้วย
ซึ่งคอนเทนต์บนโลกอินเตอร์เน็ตก็มีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น บทความ ภาพ เสียง วิดีโอ ฯลฯ แม้กระนั้นวันนี้พวกเราจะเชื้อเชิญมาเสวนาถึงคอนเทนต์ 2 จำพวกใหญ่ๆที่ไม่ใช่การเจาะลึกไปถึงจำพวกคอนเทนต์แบบที่กล่าวไป
มันก็คือ Content Creation รวมทั้ง Content Curation นั่นเอง หลายท่านบางทีอาจเคยทราบบ้าง แม้กระนั้นไม่แน่ใจว่ามันเป็นยังไง และก็ต่างกันอย่างไรอย่างแน่ชัด ขั้นแรกมาทำความรู้จักคอนเทนต์อีกทั้ง 2 ชนิดที่จะต้องมีบนเครือข่ายสังคมของพวกเรากันก่อนดีมากยิ่งกว่า
Content Creation
คอนเทนต์ที่พวกเราประดิษฐ์ขึ้นมาเอง หรือที่ได้ยินกันเป็นประจำว่า Original Content เป็นคอนเทนต์ที่มีเพียงแต่เดียว ที่พวกเราเป็นคนสร้างขึ้นมาเองทั้งยังเขียนเนื้อหาบทความ ทำภาพกราฟิก วิดีโอ หรืออะไรต่างๆที่ไม่มีการยืมของคนอื่นๆมาใช้ (สำหรับ asset ต่างๆสามารถประยุกต์ใช้ได้แต่ว่าต้องระมัดระวังเรื่องของ licences และก็ข้อตกลงการใช้แรงงานให้ดีก่อน!) แล้วก็สามารถเคลมว่าเป็นงานของพวกเราได้อย่างสมบูรณ์
แน่ๆคอนเทนต์จำพวกนี้สำคัญมาก เพราะว่าจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงถึงเอกลักษณ์ของพวกเรา หน่วยงาน หรือแบรนด์นั่นเอง
จุดเด่น
- ช่วยสร้าง brand awareness ให้กับพวกเรา หน่วยงาน หรือแบรนด์
- ช่วยทำให้เป็นที่จำในแบบของพวกเราเอง
- เป็นตัวการันตีว่าพวกเราเป็นหัวหน้าหรือมีความชำนาญในคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับด้านนั้นๆจริง
- สร้างไม่เหมือนกัน แล้วก็สะดุดตาจากคู่ปรับ
- เพิ่มความน่าไว้ใจให้กับพวกเรา หน่วยงาน หรือแบรนด์
- เมื่อเป็นคอนเทนต์ที่ผลิตเอง ก็สามารถปรับปรุงแก้ไขให้กับทางของตน หน่วยงาน หรือแบรนด์ที่ดูแลมองได้อย่างอิสระ ที่จะทำให้ได้โอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกจุดนั่นเอง
- บางคอนเทนต์ที่เป็น Evergreen Content สามารถเอามาโพสต์ซ้ำและก็ช่วยเพิ่มยอดการเข้าชมได้เรื่อย
- ช่วยเรื่อง SEO ในทางของการจัดชั้นเว็บ
จุดบกพร่อง
- จำเป็นต้องใช้เวลาในการค้นคว้าเก็บข้อมูล เพื่อนำมาประกอบเป็นคอนเทนต์
- อาจมีค่าใช้สอยสำหรับในการผลิตคอนเทนต์ ไม่ว่าจะรายจ่ายที่เป็น Fixed Cost อย่างการจ่ายให้กับบริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆดังเช่น Adobe ที่จำต้องสมัครใช้งาน หรือรายจ่ายอื่นๆคิดเป็นแต่ละงาน
ชี้แนะว่าคอนเทนต์ที่ผลิตเองน่าจะอิงความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และก็ตอบปัญหากลุ่มเป้าหมาย เพื่อกลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ถ้าหากเป็นแบรนด์ที่จะต้องขายของและก็บริการก็ไม่สมควรที่จะย้ำคอนเทนต์ที่เป็นการขาย หรือโปรโมชันเพียงอย่างเดียวแค่นั้น แม้กระนั้นจะต้องมีคอนเทนต์อื่นๆดังเช่นการให้ข้อมูล วิชาความรู้ วิธีการใช้งานต่างๆที่มีคุณประโยชน์แล้วก็สร้างค่าต่อกลุ่มเป้าหมาย
แล้วควรจะเลือกคอนเทนต์ชนิดไหนดีล่ะ?
ในความเป็นจริงไม่จำเป็นที่ต้องเลือกคอนเทนต์ชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่ว่าชี้แนะให้มีคอนเทนต์อีกทั้ง 2 จำพวกบนเครือข่ายสังคม ครีเอเตอร์ดิจิทัล facebook คืออะไร แล้วก็คิดแผนสำหรับเพื่อการโพสต์ ปรับรูปทรงตามสมควร โดยพินิจจากจุดประสงค์ต่างๆเพื่อตอบปัญหาแล้วก็บรรลุตามเป้าที่ตนเองตั้งไว้นั่นเอง
แล้วก็แทนที่จะแชร์เฉยๆการเพิ่มข้อมูล หรือข้อคิดเห็นของพวกเราลงไปด้วยจะมีคุณประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น พวกเขาจะได้ทราบว่าพวกเรามีความคิดเช่นไรกับคอนเทนต์นั้นๆไม่มีความจำเป็นที่ต้องเขียนยาวเป็นบทความ แต่ว่าสามารถชี้แจงสั้นๆให้รู้เรื่อง และก็ทำให้คอนเทนต์ที่แชร์มามีคุณค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็พอเพียงแล้ว ถ้าสามารถเสริมข้อมูลนิดหน่อยเพิ่มเติมอีกได้ ก็จะยิ่งดีเยี่ยมข้ึนไปอีก
การมีคอนเทนต์ทั้งสองชนิด จะช่วยทำให้สามารถสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง bwin33 และก็เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นคนนำทางความนึกคิดในอุตสาหกรรมนั้นๆได้
นอกเหนือจากนี้ยังกระทำการผสมคอนเทนต์ 2 จำพวกนี้เข้าด้วยกันได้ในโพสต์เดียวกันอีกด้วย เป็นต้นว่า บางทีอาจทำภาพอินโฟเกลื่อนกลาดราฟิกขึ้นมา โดยอิงข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งอื่นแล้วก็ให้เครดิตให้สมควร อย่างงี้ก็ทำให้พวกเราสามารถประดิษฐ์ภาพอินโฟกราฟิกในแบบของพวกเราเอง ภายใต้ข้อมูลที่ได้รับมาจากที่อื่นๆ
เรียกว่าได้ประโยชน์จาก Content Creation ที่เป็นคนผลิตออกมาเอง รวมทั้งมี Content Curation แหล่งข้อมูลจากผู้ชำนาญตัวจริงมาช่วยส่งเสริมข้อมูลให้น่าไว้วางใจมากขึ้นอีกด้วย
ช้จ่ายที่เป็น Fixed Cost อย่างการจ่ายให้กับบริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆตัวอย่างเช่น Adobe ที่จำต้องสมัครใช้งาน หรือค่าครองชีพอื่นๆคิดเป็นแต่ละงาน
ชี้แนะว่าคอนเทนต์ที่ผลิตเองน่าจะอิงความเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ครีเอเตอร์ดิจิทัล facebook คืออะไร และก็ตอบปัญหากลุ่มเป้าหมาย เพื่อกลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมมากเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นแบรนด์ที่จำเป็นต้องขายของแล้วก็บริการก็ไม่สมควรที่จะเน้นย้ำคอนเทนต์ที่เป็นการขาย หรือโปรโมชันเพียงอย่างเดียวเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นจะต้องมีคอนเทนต์อื่นๆดังเช่นว่าการให้ข้อมูล วิชาความรู้ วิธีการใช้งานต่างๆที่มีคุณประโยชน์รวมทั้งสร้างค่าต่อกลุ่มเป้าหมาย
ปฏิบัติงานที่ FutureSkill เป็นยังไง?
ไม่กล่าวถึงบริษัทก็น่าจะยังไงๆอยู่ บอกตามจรงว่าเป็นบริษัทที่ตอบปัญหาคนสมัยใหม่มากมายๆในสมัยที่ทุกคนต่างเบื่อการบ้านการเมืองในสถานที่ทำงาน หัวหน้าที่ถูกใจเอาเปรียบพวกเรา ตรงนี้ต่างไปอย่างสิ้นเชิง FutureSkill ที่ผมได้สัมผัส เป็นสังคมของการทำงานที่จริงจริง พวกเราอยู่กันแบบคนทำงาน พวกเรามีอิสระสำหรับการจัดแจงชีวิตและก็เวลาของพวกเรา งานเสร็จก็จัดว่าโอเค หากเพื่อนฝูงๆกำลังมองหาบริษัทที่มองดูคุณจากงานที่ทำ ไม่ใช่สิ่งที่เป็น ผมพูดได้ว่าตรงนี้เป็นบริษัทที่ตอบปัญหาสูงที่สุดบริษัทหนึ่งเลยนะครับ
ท้ายที่สุดผมต้องการโปรโมทชักชวนทุกคนเข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของ FutureSkill ในตอนนี้เปิดรับตำแหน่งอยู่มากมายตำแหน่ง (รวมทั้ง Content Editor ด้วยนะ) หากได้โอกาสไว้พบกันครับผม สวัสดีนะครับ