ดูหนัง the covenant เวลาที่ อันยา เทย์เลอร์-หน้าจอย (Anya Taylor-Joy) ในบทเจ้าฟ้าหญิงพีช ที่คุณยังส่งผลงานบรรยายมาเพียงแต่เรื่องเดียวนั้นก็จำต้องพูดว่าทำเป็นดีตามมาตรฐาน แต่ว่าโชคร้ายที่บทหนังมิได้ส่งให้คุณได้ใช้ความสามารถดึงมุมลึกๆของนักแสดงออกมาเท่าไรนัก กระจ่างแจ้งแล้วว่า ใน Dune: Part Two จะเกิดเรื่องราวที่จะให้ความใส่ใจกับการใช้ชีวิตของพอล ที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจการใช้ชีวิตกับเหล่า the Freman ชนพื้นเมืองของดวงดาวที่กาลครั้งหนึ่งเขาและก็เครือญาติเคยเป็นผู้ดูแล แม้กระนั้นมันก็งามมากมายๆ
โดยมากของอโรนอฟสกีเองก็มักมีตัวละครที่ไม่ค่อยธรรมดาแม้กระนั้นถูกถ่ายทอดออกมาได้วิจิตรบรรจงเปี่ยมอารมณ์อยู่แล้วซึ่งโน่นทำให้มองเห็นว่าครั้งนี้ มุมกล้องถ่ายภาพและก็งานวิธีที่เคยหนักมือดูถูกลงจนถึงเกือบจะไม่เหลือการวางเฟรมสุดอวองการ์ดใน ‘Pi’ หรืองานเขยื้อนกล้องถ่ายรูปบ้าพลังมาตั้งแต่ ‘Requiem for a dream’ ดูหนัง the covenant กระทั่งถึง ‘Mother’ ที่เคยทำเอาผู้ชมจะเป็นประสาทมาแล้ว โน่นหมายความว่าอโรนอฟสกีเองก็เชื่อในพลังของบทและก็การแสดงมากพอที่จะปลดปล่อยให้ ‘The Whale’
ส่วนในด้านบท แม้ว่าจะมีวัตถุดิบจากการตีความหมายใหม่ที่จัดว่าสดใหม่และไม่เหลวแหลกเลย แล้วก็นักเขียนก็เชื่อลึกๆว่ามันก็กล้าแกร่งพอที่จะให้ไปต่อได้อีกหลายภาค แต่ว่าโดยส่วนประกอบสำคัญๆก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้จริงๆว่า พล็อตของตัวหนังก็ยังมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรขนาดนั้น ถึงแม้การเล่าจะพากเพียรวางจุดพลิกล็อกให้ได้ลุ้นตลอดทาง แทรกขั้นตอนการดำเนินเรื่องแบบหนังสยองขวัญ แทรกมุกขำขันแกล้มบางๆแทรกเพลงฮิปฮอปสมัย 90s ที่ผู้กำกับคัดเลือกมาเองกับมือกับ Once หรือ Sing Street
รีวิว ดูหนัง the covenant
ภาพยนตร์เพลงแนวโรแมนติก ชนชาติอเมริกัน โดยเดภรรยาน ชาเซลล์ ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์แล้วก็ผู้เขียนบทชาวแคนาดา-อเมริกัน ซึ่งเคยสร้างการบรรลุเป้าหมายมาแล้วกับ Whiplash (ตีให้ลั่น เพราะเหตุว่าฝันยังไม่จบ) ส่วนตัวเคยได้เห็นภาพยนตร์หัวข้อนี้ผ่านตาอยู่บ่อยมากแล้วก็รู้ดีว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมๆแม้กระนั้นไม่เคยได้โอกาสได้มองเลย จนถึงเมื่อตอนแรกปีถึงได้โอกาสได้มองภาพยนตร์ประเด็นนี้ใน Netflix แล้วก็ภายหลังที่มองจบก็รู้สึกถูกใจมากมายๆ
เป็นภาพยนตร์ที่หากให้แต้มเลยเป็น 10/10 ผมเลยจะมาเขียนรีวิวในเนื้อหานี้ถูกถ่ายรูปเพียงแค่กว้าง กับ แคบ แถมเขยื้อนกล้องถ่ายภาพยังน้อยมากจนถึงน่าตกใจ ตรงข้ามคำตอบของมันกลับเอาจริงเอาจังแล้วก็ร้ายแรงอย่างยิ่งขอรับ ซึ่งโน่นทำให้รีวิวนี้พวกเราคงจะจำต้องเอ่ยถึงดาราหนังแบบเรียงคนจริงๆถึงแม้ส่วนตัวจะคิดว่า Begin Again เป็นงานของคาร์นีย์ที่ถูกใจต่ำที่สุด แม้กระนั้นภายหลังได้กลับมามองอีกรอบก็พบว่า โห ดูหนัง the covenant พวกเราเอนหน้าจอยกับมันมากมายๆระดับหนึ่งเลย
หนังเล่าของโปรดิวเซอร์เพลงย่ำแย่ กับนักแต่งเพลงสาวที่เจอะกันในบาร์คืนนึงโดยบังเอิญ วันหลังวันที่ห่วยแตกที่สุดวันหนึ่งของชีวิตทั้งสอง (ข้างชายโดยเขี่ยออกมาจากบริษัทที่ตนเองเปิดเนื่องจากว่าปฏิเสธวัฒนธรรมเพลงสมัยใหม่ ส่วนข้างหญิงจับได้ว่าคู่รักตนเองกำลังเริ่มจะมีผู้อื่น) ทั้งคู่ตกลงใจทำเพลงร่วมกัน ข้างหลังข้างชายมีความคิดเห็นว่าคุณมีความรู้ทั้งยังสำหรับในการร้อง และก็เขียนเพลงซึ่งมันเป็นหนังเพลงที่บันเทิงใจ ดูแล้วแฮปปี้มากมายๆค่ะๆไม่บิดพลิ้วหากแม้เรื่องเล่าจะไม่คม แล้วก็ถูกใจพอๆ
รีวิว Marriage Story (2019)
หนังรักสายดราม่า ที่ดูแลโดย โนอาห์ ค่อยม์หาม แสดงนำโดย อดัม ไดรเวอร์ รวมทั้ง สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน เรื่องราวจะพาทุกคนไปตรวจสอบความข้องเกี่ยวที่พังทลายของการสมรสระหว่างชาร์ลี ผู้กำกับละครเวทีที่บรรลุเป้าหมาย แล้วก็นิโคล ดาราหญิง ทั้งสองจำต้องประสบปัญหาในชีวิตของการการเป็นสามีภรรยารวมทั้งวิธีการเลิกร้างที่เหนื่อยยาก ซึ่งนับว่าเป็นของใหม่ๆที่ไม่เคยมีในภาคก่อนๆแต่ว่าองค์ประกอบบทแล้วก็พล็อตโดยรวม ก็ยังคงเล่าด้วยบทที่เป็นสูตรสำเร็จตามแบบฉบับ ‘Transformers’
ความเปรยท้องนาในที่สุดในชีวิตชาร์ลีมีเพียงแค่การได้กลับไปสานสโมสรกับ เอลลี (สวมบทบาทโดยเซดี ซิงค์ Sadie Sink) บุตรสาวที่เขาทิ้งคุณไปตอน 8 ขวบก่อนเขาจะล่ำลาโลกนี้ไปอีกจุดที่คนเขียนมีความคิดว่าคนจำนวนไม่น้อยก็คงจะรู้สึกไม่น้อยกับภาคนี้แน่นอนล่ะ ก็คือบรรดาฉากแอ็กชันนะครับ ซึ่งเอาเข้าจริงภาคนี้มันก็ยังคงมีความเป็น Bayhem หน่อยๆตามอิทธิพลโปรดิวเซอร์นั่นแหละ แม้กระนั้นสิ่งที่ต่างอย่างชัดเจนเป็น ภาคนี้เป็นหนังสเกลกลางที่มิได้เน้นย้ำหวือหวาแบบระเบิดเขาเผากระต๊อบแล้ว
โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากแอ็กชันตอนไคลแม็กซ์ ที่จัดว่าทำเป็นสนุกสนานและก็ละลานตา เพียงแต่ว่าบางครั้งก็อาจจะมิได้มีฉากตระการตา หรือมีมุมกล้องถ่ายภาพ-ตัดต่อหวือหวาเท่าของพ่อเบย์ ถ้าหากคนไหนถูกใจความตระการตาแบบทะลุอาคาร ระเบิดรถยนต์ ก็บางทีก็อาจจะมีความรู้สึกว่ามันจืดชืดไปหน่อย แต่ว่าถ้าเกิดผู้ใดกันถูกใจกับเรื่องราวในแบบไม่ต้องเน้นย้ำแอ็กชันหวือหวา มีกลิ่นความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโรหน่อยๆเพียงนี้ก็จัดว่าละลานตาแล้วก็ตื่นเต้นกว่าฉากแอ็กชันใน ‘Bumblebee’ มากมายๆแล้วล่ะ
รีวิว Before Sunrise (1995) ครบรอบ 24 ปี Before Sunrise หนังรักที่พวกเราจะไม่ลืมเลือน
27 เดือนมกราคม 1995 วันแรกของการเข้าฉาย Before Sunrise ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่า ที่เปลี่ยนเป็นแหล่งกำเนิดของสามภาค Before Trilogy ควบคุมโดย ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์ (Richard Linklater) ทำเงินในประเทศสหรัฐอเมริกาไป 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากทุนสร้าง 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เล่าถึง เจสซี ชายหนุ่มอเมริกัน ดูหนัง the covenant แล้วก็ซีลีน สาวประเทศฝรั่งเศส พวกเขาเจอกันบนรถไฟกลางทางไปเวียนทุ่งนา ทั้งสองได้ใช้เวลาหนึ่งคืนเดินเที่ยวรอบเมือง สนทนาและก็ทำความรู้จักกัน
โดยจะเกิดเรื่องราวของบิดาลูกคู่หนึ่ง ที่เจอกับวิกฤตเชื้อไวรัสซอมบี้ระบาดทั่วกรุงโซล ทำให้มีวิถีทางเดียวที่จะเอาชีวิตรอดเป็นนั่งรถไฟไปถึงเมืองปูซานให้ได้ หนังซอมบี้หัวข้อนี้เกิดเรื่องที่ครบทุกรส อีกทั้งน่าสะพรึงกลัว ตื่นเต้นแล้วก็ประทับใจ พูดได้ว่าเกิดเรื่องที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมาถูกใจหนังแนวนี้กันอย่างยิ่งจริงๆนะครับ บทหนังก็มิได้ใจดียื่นบทกล้วยๆให้น้องซิงค์จาก ‘Stranger Things’ มาปรากฎกายเพื่อการตลาด
จริงๆก็เสมือนดูหนังเรื่องอื่นของคาร์นีย์เลย Begin Again จ้องชีวิตของคนเราผู้หลงใหลในเสียงดนตรี มนุษย์ที่แฮปปี้กับการได้ขับร้อง เขียนเพลง ทำเพลง หรือใดๆก็ตามที่เกี่ยวกับเพลง พื้นที่ในหนังส่วนหนึ่งส่วนใดถูกชูไปให้กับที่ตรงนี้ นิดหน่อยสำคัญกับเรื่องเล่า และก็เล็กน้อยก็ไม่ แต่ว่าที่แน่นอนมันสามารถถ่ายทอดบรรยากาศ รวมทั้งความรู้สึกของหนัง แล้วก็คนทำเป็นอย่างชัดเจนเพราะเหตุว่าเจสซีจำต้องเดินทางกลับอเมริกาในพรุ่งนี้ ส่วนซีลีนก็มีความตั้งอกตั้งใจที่จะกลับไปศึกษาต่อที่ประเทศฝรั่งเศส
พวกเราเลยถูกใจฉากอัดเพลงในหนังมากมาย เท่าๆกับที่ถูกใจฉากทำเพลงใน Once หรือฉากถ่ายเอ็มวีใน Sing Street เนื่องจากผู้แสดงทุกคนเป็นสุข เอนหน้าจอยในห้วงนั้นไปร่วมกัน และก็ด้วยเรื่องจริงที่ว่า พวกเขาปวด ชีวิตพวกเขากำลังมีปัญหา แบกรับภาระเยอะมากเอาไว้ในหัวใจ การได้ขับร้องก็เลยเป็นเสมือนการได้หลีกลี้ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ว่าชีวิตจำเป็นที่จะต้องสุข หรือทุกข์ เมื่อพวกเขาอยู่กับเสียงดนตรี มันย่อมเกิดเรื่องที่ดีเสมอ
รีวิว 500 Days of Summer (2009) เมื่อความรักปรารถนามากยิ่งกว่าเหตุผล
ประโยคเด็ดที่เปลี่ยนเป็น Quote ดังจากภาพยนต์ รวมทั้งยังคงแชร์กันอยู่กระทั่งเดี๋ยวนี้ ถึงแม้ 500 Days of Summer จะผ่านมากมายว่า 10 ปี และจากนั้นก็ตาม ความนิยมชมชอบของหัวข้อนี้ยังคงไม่เสื่อม พูดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนต์อมตะชั่วกับชั่วกัลป์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากว่าทอม (Tom) กับซัมเมอร์ (Summer) นักแสดงหลักของเรื่อง ได้สะท้อนต้นแบบความเกี่ยวข้องที่มีความเรียล และก็แม้ว่าจะผ่านไปกี่ช่วง ความเชื่อมโยงลักษณะนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นกับผู้คนให้เจ็บหัวใจจี๊ดเล่นๆได้อยู่เนืองๆเลยล่ะจ้ะ
นอกจากนี้แล้วหนังก็นับว่าทำเป็นบันเทิงใจมีครบทุกสิ่งในความเป็นนินเทนโด แถมฉากโชว์มุมมองแบบเกมแพลตฟอร์มข้างๆตอนต้นของหนังยังเป็นเหตุให้พวกเราเห็นภาพเลยว่าหากเกมมาริโออยู่ในเครื่องเล่นเน็กซ์เจนมันจะหรูหราได้อีกแค่ไหน เป็นหนังที่คอเกมและก็เด็กหนวดคงจะติดอกติดใจ ส่วนคนชอบดูหนังแอนิเมชันทั่วๆไปคงจะเพลินแต่ว่ารู้สึกไม่สุดนัก bwin33 พวกเขาแบ่งปันเรื่องราวของตนอย่างจริงใจโดยมั่นใจว่าน่าจะมิได้เจอกันอีก
(ซึ่งโชคดีสำหรับเรานะครับที่มันไม่ใช่) รวมทั้งผลก็คือการได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาดารานำชายในปีนี้ (และก็แน่ๆว่าพวกเราอดลุ้นให้เขาได้รางวัลมิได้จริงๆ)บอกได้เลยว่าสำหรับคอภาพยนตร์ หนังซอมบี้ประเด็นนี้ควรเป็นหนังซอมบี้ในใจผู้คนจำนวนมากแน่ๆนะครับ ด้วยเหตุว่าหนังซอมบี้จากประเทศเกาหลีหัวข้อนี้เป็นภาพยนตร์ที่ปลุกกระแสหนังซอมบี้สไตล์ทิศตะวันออกให้เลื่องลือ จนได้รับคำสรรเสริญจากทั่วทั้งโลก
เริ่มกันที่เฟรเซอร์ ที่เริ่มต้นเสมือนบทชาร์ลีจะมิได้ท้าอะไรมากมายไปกว่าการใส่ชุดท้องหนัก 136 กิโลกรัม เคลื่อนราวกับคนเป็นแผลกดทับซึ่งลำพังเพียงแค่การเคลื่อนไหวให้ไม่เสมือนคนสวมชุดมาสคอตก็ชวนมองสุดแท้แต่เพียงพอหนังเข้าตอนดรามาอีกทั้งการหวนรำลึกถึงแฟนเก่าที่ตายไปและก็ภาพครอบครัวในวันวาน การแสดงของเฟรเซอร์ละเอียดมากพอให้กล้องถ่ายรูปที่ถ่ายมันนิ่งๆสร้างแรงสั่นกระเพื่อมร้ายแรงไปถึงผู้ชมในทุกซีน ทุกการเคลื่อนไหว
รีวิว About time (2013) หนัง feel good ในดวงใจ จนถึงให้ขึ้นแท่น
ส่วนตัวนักเขียนเคยดูเวอร์ชั่นการ์ตูนมาแล้ว แต่ว่ายาวนานมากจนถึงมิได้จำเนื้อหาต่างๆได้อย่างเที่ยงตรงมากมายขนาดนั้น แม้กระนั้นจำไฮไลต์ของเรื่อง แล้วก็เรื่องราวตั้งแต่ต้นจนถึงจบได้ว่ากำเนิดอะไรขึ้น พบว่าตนเองสามารถมองภาพยนตร์หัวข้อนี้ได้อย่างเพลินกว่าที่คิด เมื่อวางอคติเรื่องเค้าหน้าของแอเรียล โดยเห็นว่าแอเรียล (แสดงโดย ฮัลลี เบลีย์) เป็นเพียงแค่นางเงือกน้อยปกติคนหนึ่ง ที่สงสัยต้องการรู้เกี่ยวกับโลกมนุษย์ หลงเสน่ห์มนุษย์ชายหนุ่มคนแรกที่พบ ผู้ซึ่งมีอุดมการณ์คล้ายคลึงกันกับคุณ
จนถึงยอมสละเสียงของตนเองเพื่อได้ขาเดินเช่นมนุษย์ ดูหนัง the covenant แต่ว่าด้วยความไม่รู้เดียงสาและไม่คิดตริตรองให้ถี่ถ้วนดีเพียงพอ ชี้ให้เห็นว่าการสละเสียงเพื่อขามิได้ทำให้เรื่องง่ายอย่างที่หัวใจคุณคิด ทุกๆอย่างนี้ในรูปภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาได้เข้าใจง่ายและก็กระชับฉับไวไม่มีเบื่อแต่ว่าถ้าเกิดพวกเราดูโดยหยุดเทียบคาแร็กเตอร์ระหว่างคนแสดงกับการ์ตูนลงไปก่อน แล้วนั่งดูโดยคิดเสียว่าเป็นหนังเรื่องใหม่แกะกล่องเรื่องหนึ่งที่พวกเราไม่เคยมองเวอร์ชั่นอะไรก็ตามมาก่อน
ก็จะพบว่า The Little Mermaid นี้ก็มองเพลิดเพลินมองบันเทิงใจดี มิได้ห่วยจนถึงทนดูไม่ได้จนกระทั่งจะต้องตำหนิติเตียนไปเสียทุกจุดอะไรและก็อีกสารพัดปมที่เยอะแยะจนกระทั่งทำให้หนังความยาวเกือบจะ 2 ชั่วโมงมีเงื่อนที่ทิ้งๆไว้ไม่ได้แตกต่างจากหนังยาว 3 ชั่วโมงขึ้นไปอีกทั้งเงื่อนเรื่องลูกไปต่อยกับเพื่อนพ้องในสถานศึกษากลุ่มคนหูหนวกที่เสมือนจะเอ่ยถึงการต้านความร้ายแรงหรือความย่ำแย่ที่อโดนิสก่อไว้กับนักมวยในสังกัดของตัวเองที่ตัดจบไปแบบดื้อรั้นๆมิได้มีซีนที่เขาเลือกจะไปสะสางจิตใจกับอีกข้างอะไร
แม้ตัวหนังจะยังมีปัญหาในเรื่องความสมเหตุผลของบทหนังหรือการที่มันทิ้งความดีสำหรับการเป็นหนังมรดกของร็อคกี้ แม้กระนั้นถ้าหากประเมินในทางหนังดราม่านักมวยที่มีฉากบนสังเวียนเดือดๆแล้วล่ะก็ ‘Creed III’ ยังคงตอบปัญหาอยู่ดีครับผม โดยยิ่งไปกว่านั้นการดูในระบบ IMAX เป็นเพิ่มอรรถรสให้หนังได้อย่างดียิ่งเลยนะครับ ทุกการแสดงสีหน้าท่าทางสื่อความหมายและก็อาจจะไม่ผิดถ้าเกิดจะพูดว่าเฟรเซอร์เองก็ใส่ใจดีว่าบทชาร์ลีคือของขวัญของพระผู้เป็นเจ้าที่เขาจำเป็นต้องทุ่มชีวิตให้มันเสมือนเป็นงานในที่สุดก่อนหมดลมหายใจ