After Everything (2023) เต็มเรื่อง แคทเธอรีน โรบินสัน หญิงสาวสถานที่สำหรับทำงานเป็นคนที่มีหน้าที่เขียนโปรแกรมเทคโนโลยีสารสนเทศ คุณหลงเสน่ห์กับ เท็ด โรบินสัน หนุ่มน้อยสถานที่สำหรับทำงานเป็นตำรวจ ทั้งคู่คนแต่งงานกันและก็มีลูกร่วมกัน วันหนึ่ง เท็ดถูกฆ่าตาย แคทเธอรีนรู้สึกเศร้ารวมทั้งโกรธเคือง คุณก็เลยตกลงใจสืบเสาะหาข้อเท็จจริงเบื้องหน้าเบื้องหลังการเสียชีวิตของผัว แคทเธอรีนพบว่าเท็ดมีส่วนเกี่ยวกับกลุ่มค้าสิ่งเสพติด
คุณก็เลยร่วมมือกับ มาร์ติน ฮอลล์ ตำรวจเพื่อนพ้องของผัว เพื่อสืบคดีนี้ ในระหว่างการสอบสวน แคทเธอรีนจำเป็นต้องพบเจอกับอันตรายอย่างยิ่งมาย คุณถูกกลุ่มค้าสารเสพติดตามล่ารวมทั้งถูกข่มขวัญ คุณจำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อป้องกันตัวเองและก็ลูกของคุณสุดท้าย แคทเธอรีนก็พบว่าผู้ที่ฆ่าผัวของคุณเป็น โรเบิร์ต บาร์ตัน หัวหน้ากลุ่มค้าสิ่งเสพติด คุณก็เลยตกลงใจล้างแค้นด้วยการฆ่าบาร์ตัน แคทเธอรีนสามารถทวงแค้นให้กับผัวของคุณได้เสร็จ แม้กระนั้นคุณก็สูญเสียทุกสิ่งไป คุณจำต้องแปลงเป็นคนใหม่รวมทั้งเริ่มชีวิตใหม่อีกรอบ
ดูหนังออนไลน์ After Everything (2023) เต็มเรื่อง
เป็นภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกอเมริกันปี 2023 ที่เขียนบทและก็ดูแลโดย Castille Landon โดยอิงจากนักแสดงจากนิยายซีรีส์ After โดย Anna Todd ภาคต่อโดยตรงของ After Ever Happy (2022) รวมทั้งภาคที่ห้าซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์ภาพยนตร์ After แสดงนำโดยโจเซฟีน แลงฟอร์ดและก็วีรบุรุษ ไฟนส์ ทิฟฟิน ที่กลับมาเล่นบทเทสซา ยังรวมทั้งฮาร์ดิน สก็อตต์ เป็นลำดับ
ฮาร์ดินยังคงคร่ำครวญหาเทสซา หนึ่งปีภายหลังที่คุณเลิกกับเขาเมื่อศึกษาค้นพบต้นฉบับของเขาสำหรับ ‘After’ เรื่องราวความรักของพวกเขา แคทเธอรีนผู้พิมพ์ของเขากระตุ้นให้เขาติดตามผลงานหนังสือขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าก่อนปลายปีการบังคับให้เขาไปคลับกับคุณและก็เพื่อนพ้องของคุณ ฮาร์ดินไม่อาจจะสนุกกับตนเองได้ไพเราะเขามีภาพย้อนอดีตเกี่ยวกับเทสซ่าอยู่เสมอเวลา แคทเธอรีนและก็เพื่อนพ้องของคุณให้ฮาร์ดินพาพวกเขาไปที่บ้านของเขา แต่ว่าเขากลับไม่สนุก ดื่มจนกระทั่งสลบ
ระหว่างกินอาหารตอนกลางวันกับแม่แล้วก็บิดาผู้ให้กำเนิดในพรุ่งนี้ After Everything (2023) ฮาร์ดินถูกว่ากล่าวที่ดื่มอีกที หมกมุ่นอยู่กับความมานะบากบั่นที่จะไม่ก้าวถัดไป การชี้แจงว่าเทสซาเป็นเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงของเขาสำหรับการเป็นแล้วก็รำพันของเขา เขามีปัญหาสำหรับคนเขียน แม่ของฮาร์ดินชี้แนะให้เขาระงับอารมณ์กับอดีตกาล แล้วท้องนาตาลีเอ๋ยถึงที่นาตาลีว่า ตั้งแต่วัยเด็กในช่วงเวลานี้อาศัยอยู่ในลิสบอน
ภาพยนตร์หัวข้อนี้พบว่า Tessa แล้วก็ Hardin ดำรงชีวิตแยกกันภายหลังที่ Hardin พิมพ์หนังสือเผยของเขาโดยที่คุณไม่เคยทราบ ฮาร์ดินเพียงแค่ที่เดียวในอังกฤษเริ่มเลิกดื่มสุราและก็เลิกนิสัยที่ทำให้เป็นอันตรายอื่นๆที่ทรามกว่านั้นเป็นเขาจะต้องทนทุกข์จากปัญหาของผู้เขียนและก็บางทีอาจจำต้องคืนเงินก้อนโตแม้เขาเขียนต้นฉบับใหม่ไม่เสร็จในเร็วๆนี้ แทนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อซาตานของเขา
ฮาร์ดินเริ่มใส่ใจว่าวิธีเดียวที่จะก้าวไปด้านหน้ารวมทั้งได้โอกาสที่จะเอาชนะเทสซากลับคืนมาได้ก็คือการปรับแต่งสิ่งที่ไม่ถูกจากสมัยก่อนของเขา เขาเดินทางไปประเทศโปรตุเกสเพื่อยอดเยี่ยมที่นาตาลี เพศหญิงคนหนึ่งที่เขาเคยปฏิบัติอย่างเลวทราม ด้วยการใช้เวลากับที่นาตาลีและก็ใส่ใจว่าคุณได้ก้าวถัดไปแล้ว สุดท้าย ฮาร์ดินก็สามารถยกโทษตนเองแล้วก็แลเห็นอนาคตที่แจ่มใสร่วมกับสตรีที่เขารักได้ เวลาเดียวกัน เมื่อกลับมาถึงอเมริกา แลนดอนแล้วก็นอราก็จัดแจงทำพิธีแต่งงานที่กำลังจะออกเดินทางมาถึง ซึ่งเทสซาแล้วก็ฮาร์ดินจะเข้าร่วมด้วย คู่ครองที่ผ่านเรื่องราวต่างๆกันมาจะยกโทษกันรวมทั้งเอาอย่างคำสัญญาลำดับสูงสุดได้ไหม?
ภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกนักแสดงนำ ฮาร์ดิน เล่นบทโดย วีรบุรุษ ไฟนส์ ทิฟฟิน เดินทางไปประเทศโปรตุเกสเพื่อตามหาท้องนาตาลี สตรีที่เขาเคยทำผิดในสมัยก่อน ในระหว่างการค้นหา ฮาร์ดินเริ่มศึกษาค้นพบตัวตน เขาดิ้นรนเพื่อปรับปรุงต้นฉบับฉบับแรกของเขาในตอนที่จะต้องต่อกรกับปัญหาของคนเขียนแล้วก็การแยกทางอันอกหักกับเทสซา เขาทราบกันดีว่าเขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนก่อนตัดสินใจขั้นท้ายสุดเพื่อได้เทสซากลับมา
การเดินทางไปประเทศโปรตุเกสชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าของฮาร์ดินในฐานะนักแสดง ในขณะเขาตระหนักถึงความบกพร่องที่เขาได้ทำไว้ เรื่องราวของภาพยนตร์ประเด็นนี้รวมทั้งความพากเพียรของฮาร์ดินสำหรับในการเป็นผู้ที่ดียิ่งขึ้นโดยรวม แต่ว่าความเกี่ยวพันที่เขาตามหากับเทสซากระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเกลียวในใจของเขาว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่มีคุณจะสื่อความหมายยังไง ประสบการณ์สอนให้เขามองเห็นจุดสำคัญของความสบาย
รีวิวหนัง “The Conference การประชุมเลือด
วันศุกร์ 13 เดือนตุลาคมกับบรรยากาศฟ้าปิดเป็นประจำแบบงี้ ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่าการเสิร์ฟหนังเขย่าขวัญอีกแล้ว และถึงเวลาของหนังเลือดสาดเรื่องใหม่จากประเทศสวีเดน จัดเตรียมมาปล่อยความบ้าคลั่งใน “The Conference ประชุมสัมมนาเลือด” หนังแนว Slasher ที่คอนเซ็ปต์กับกลิ่นบางทีอาจจะค่อนข้างจะรู้จักดี แม้กระนั้นปรับโหมดความเหี้ยมโหดมาทางฝั่งยุโรปกับรายละเอียดที่คงจะผูกจิตใจหนังจำพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย
The Conference ประชุมสัมมนาเลือด เล่าราวของข้าราชการที่ทำการเทศบาลกรุ๊ปหนึ่งที่เดินทางมาจากพื้นที่รวมทั้งพื้นเพ เพื่อร่วมงานการประชุมรวมทั้งเชื่อมเกี่ยวข้องกันนอกสถานที่ที่เสมือนจะเป็นหลักที่ที่ไม่มีอันตรายใดๆก็ตามแม้กระนั้นพวกเขาจำต้องมาแข่งขันกันสังหารตนเองให้รอด พร้อมด้วยเจอหน้าคนร้ายปัญหาที่แสนอยากกินเลือด จากการขอคำแนะนำงานราชการมาสู่การวางเป้าหมายหนีตายจากไอ้คลุ้มคลั่ง พวกเขาจะเหลือรอดไปได้สักกี่คน..?
หนังประเด็นนี้ดัดแปลงแก้ไขผลิตมาจากนิยายทริลเลอร์ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ความสามารถการเขียนของ “แมตส์ สแตรนด์เบิร์ก” ที่จำต้องเห็นด้วยเลยว่าคอนเซ็ปต์เรื่องราวต้นฉบับของเขาค่อนข้างจะมีกิมไม่กที่แสบสันต์ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสน่ห์อารมณ์ขำขันร้ายของหัวข้อนี้ ที่แทรกสอดใจความสำคัญเสียดสีชนชั้นสังคมได้อย่างคมคาย บนรากฐานความเขย่าขวัญรวมทั้งหนีตายจากภัยที่กำลังไล่ล่าถึงทุกๆผู้แสดง
โดยหนังประเด็นนี้ได้ “แพทริก เอ็คลุนด์” ผู้กำกับชาวประเทศสวีเดนที่ส่งผลงานโทรทัศน์ซีรีส์เขตแดนหลายๆเรื่อง รวมทั้งนับว่าการคัมแบ็กกลับมาทำหนังยาวในรอบสิบปีของเขา กับร่วมปฏิบัติภารกิจดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขเขียนบทหนังหัวข้อนี้ด้วย ถึงแม้ว่าหนังจะออกจะใส่สูตรสำเร็จตามสไตล์หนังไล่ฆ่าแนวๆนี้ ที่ทำให้มีการปูเงื่อนผู้แสดงในทีแรกๆออกจะนานพอเหมาะพอควร คงจะราวครึ่งเรื่องเลยก็ว่าได้
รีวิวหนัง “Awareness
ในช่วงเวลาที่โลกกับคืบหน้าปรับปรุงสร้างเอาดีด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ แม้กระนั้นพวกเราก็ยังคงถูกใจที่จะมองเห็นความรื่นเริงใจในแบบเหนือธรรมชาติ กับพลังพิเศษที่เหนือใครๆแล้วก็เป็นที่เรียกร้องของคนใดกันแน่ ถึงแม้ว่ามันค่อนข้างจะเชยและไม่แปลกอะไรมากแค่ไหน แม้กระนั้นมันก็ออกมาเป็น “Awareness” หนังแอคชันไซไฟเรื่องปัจจุบันจากกลุ่มผู้ผลิตฝั่งประเทศสเปนที่มาสร้างภาพหลอกตาในแวดวงหนังขึ้น
Awareness เล่าราวของ เบื่อ เด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่กับบิดาของเขาบริเวณชายเมือง ในฐานะมิจฉาชีพเก็บเล็กลักขโมยน้อย ด้วยการใช้ความถนัดพลังพิเศษของเขาที่ประจำตัวมาตั้งแต่เอง กับอำนาจจิตสร้างภาพตบตาฉ้อโกงเหยื่อให้เชื่ออย่างไม่สงสัย ซึ่งพลังของเขาแปลงเป็นที่พอใจกรุ๊ปต้านทานอยากได้เอามาปรับปรุง รวมทั้งมันยิ่งสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้น เมื่อพลังของเขาเพิ่มการควบคุมได้ต่อที่มวลชน
ผู้กำกับชาวประเทศสเปน “แดเนียล เบนเมเยอร์” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้างภาพยนตร์หัวข้อนี้ After Everything (2023) พวกเราบางทีอาจจะรู้จักดีเขาจากผลงานหนังฮอลลิวูด Tracers ล่ากระโดดเมือง เมื่อเกือบจะสิบปีกลาย กับเร็วๆนี้ในซีรีส์ Welcome to Eden ซึ่งในประเด็นนี้เขาก็ยังรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังมาจากคอนเซ็ปต์แล้วก็ไอเดียที่ร่วมไตร่ตรองมาจากคณะทำงานของเขาเอง
แต่ว่าอาจจะจำต้องบอกตรงๆว่า Awareness แปลงเป็นหนังแอคชันไซไฟที่ออกจะเข้าขั้นให้อารมณ์น่าระอา หนังแทบจะไม่มีรสชาติอะไรก็ตามเลย เต็มไปด้วยความซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีลักษณะเด่นที่น่าละลานตาแล้วก็เรียกความพอใจได้ พล็อตก็ราวกับๆกับหนังคนพลังเหนือมนุษย์ที่พวกเราต่างเคยได้เห็นเคยมองกันในหนังมากหลายเรื่องในตอน 10-20 ปีให้หลังนั่นแหละ
รีวิวหนัง “It Lives Inside ขังซาตานบ้า”
มันก็น่าดึงดูดดีไม่น้อย หากแนวความคิดความเลื่อมใสจากวัฒนธรรมฝั่งประเทศอินเดียไปปนเปอยู่กับสังคมอเมริกัน โน่นก็เลยเปลี่ยนมาได้ผลสำเร็จงานหนังสยองขวัญกระแสดีอีกประเด็นของปีนี้ อย่าง “It Lives Inside ขังภูติผีคลุ้มคลั่ง” ที่เกิดภูติผีปีศาจตนใหม่ ที่จะกระตุกต่อมความน่ากลัวให้กับผู้ชมอีกระลอก ที่ซาตานตนนี้บางครั้งอาจจะไม่เห็นได้ด้วย เขย่าขวัยด้วยความรู้สึก แต่ว่ารวมๆมันเรียกว่าหนังน่ากลัวที่ปีได้ไหมนะ
Its Lives Inside ขังภูติผีปีศาจคลุ้มคลั่ง เกิดเรื่องราวของ แซม เด็กหนุ่มสาวเชื้อสายอเมริกัน-อินเดียนที่อาศัยอยู่กับครอบครัวที่มียังยึดมั่นหลักจารีตประเพณีวัฒนธรรมอันโบราณของชาติสกุลเอาไว้ วันหนึ่งคุณได้เจอกับเพื่อนเก่า ทามิรา ที่มีความประพฤติแปลกกับการถูกใจเดินถือโหลที่เป็นแก้วเปล่าๆไปตลอดระยะเวลา แล้วก็คุณทำให้โหลที่เป็นแก้วใบนั้นตกแตก ก่อนที่จะทามิราจะล่องหนไป ทำให้คุณต้องหาแนวทางช่วยเหลือสหายรวมทั้งมันทำให้คุณติดเข้าไปสู่บ่วงอันน่าสยองขวัญ
นี่เป็นผลงานของผู้กำกับคนใหม่คนแขก “ไบชาล ดุตตา” ซึ่งประเด็นนี้เขาก็รับหน้าที่ร่วมเขียนบทด้วย ด้วยการจับเอาพื้นเพด้านวัฒนธรรมรวมทั้งความศรัทธาจากถิ่นฐานบ้านช่องมาขยี้ใส่เอาไว้ภายในหนังสยองขวัญฮอลลิวูด ที่จำเป็นต้องสารภาพว่าคอนเซ็ปต์รวมทั้งไอเดียของหนังหัวข้อนี้ ค่อนข้างจะเข้าทางอยู่ไม่น้อย แล้วก็น่าจะรู้สึกละลานตาตื่นเต้นไม่น้อย ถ้าเกิดไปอยู่ในภาพยนตร์ฝรั่ง แต่ว่าแม้เป็นคนชอบดูหนังคนประเทศไทยดูแล้ว ก็คงจะคิดว่าก็เป็นหนังที่ค่อนข้างจะปกติไปนิดหน่อย
ถึงไอเดียกับคอนเซ็ปต์ของหนังจะค่อนข้างจะเวิร์ก แม้กระนั้นโชคร้ายที่ขั้นตอนการพรีเซ็นท์และก็เล่าของหนังนั้น ยังไม่สามารถที่จะผูกจิตใจผู้ชมได้อย่างมาก หนังสามารถทำให้กระชับได้เพิ่มขึ้นกว่าที่ควรเป็นได้ ถึงแม้มันจะยังไม่ใช่จุดที่ทำให้ตัวหนังมองตกต่ำอะไร แต่ว่าก็นับได้ว่าเป็นจุดเหนียวรั้งรวมทั้งเบรกอารมณ์ผู้ชมได้ในหลายๆครั้ง เปลี่ยนเป็นหนังสยองขวัญแข็งทื่ออกจะทำเป็นไปค่อยสุดทางในสักทางหนึ่ง
ขอรับแบบตรงๆเลยว่า การเล่าเรื่องของหนังที่ไม่ค่อยจะหาลักษณะเด่นได้มากเท่าไรนัก bwin33 ก็มีหลายตอนที่หนังทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อและก็ง่วงนอนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน (บอกตรงๆว่าแอบสับผงกไป 2-3 ครั้ง) ถึงเงื่อนเรื่องของหนังจะออกจะแข็งแรงดีก็ตาม แม้กระนั้นแอบผิดหวังนิดหน่อยที่มันยังไม่มีคุณภาพพอเพียงที่จะสามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกตรึงตราไปกับได้อย่างเข้าออกรสออกชาติ
รีวิวหนัง “Totally Killer ย้อนเวลาหาคนร้าย
จะกำเนิดอะไรขึ้น..ถ้าเกิดพวกเราสามารถย้อนเวลากลับมาค้นหาตัวฆาตกรโรคจิตในสมัยก่อนได้ เพื่อยั้งเรื่องโศกเศร้าที่จะเกิดขึ้น มันเปลี่ยนมาเป็นพล็อตภาพยนตร์ตลกสยองขวัญเรื่องปัจจุบัน อย่าง “Totally Killer ย้อนเวลาหาคนร้าย” ที่เป็นการประสมประสานหนังคลาสสิกดังๆมานำยำรวมกันเป็นของกินจานใหม่ที่ได้รสในอีกแนวทางแม้กระนั้นยังรู้จัก
Totally Killer ย้อนเวลาหาคนร้าย เล่าราวปัญหาที่ยังอยากการคลี่คลาย เมื่อฆาตกรโรคจิตอันโด่งดัง อย่าง Sweet Sixteen ที่ก่อเหตุฆ่าเด็กผู้หญิงวัย 16 ในคืนวันฮาโลวีน ด้วยผู้กระทำระหน่ำแทง 16 แผล ได้กลับมาเผยตัวและก็ก่อเหตุอีกทีในอีก 35 ปีถัดมา รวมทั้งเหยื่อรายปัจจุบันของนั่นก็คือคนใกล้ตัวของ เจมี ทำให้คุณได้บังเอิญย้อนเวลากลับไปในปี 1987 ซึ่งเป็นตอนเวลาก่อนที่จะเรื่องเศร้ากลุ่มนี้จะเริ่มขึ้น
ก็แน่ๆว่าหนังประเด็นนี้ก็ราวกับเป็นส่วนประกอบของหนังคลาสสิกดังๆอย่าง Back to the Future กับ Scream ซึ่งก็ตามอย่างงั้นล่ะ เพราะเหตุว่าหนังเองก็อ้างอิงไอเดียเกี่ยวกับกลิ่นของความอมตะของพวกนั้นเอาไว้ภายในตัวหนังด้วย โดยได้ผลหน้าที่การงานดูแลของ “ทุ่งนาห์นัทชกา คาน” โปรดิวเซอร์การ์ตูนซีรีส์โด่งดัง อย่าง American Dad! ที่กลับมาจับจับงานสร้างภาพยนตร์ใหญ่อีกทีหนึ่ง
Totally Killer เป็นเลิศในโปรเจกต์ของ Blumhouse สตูดิโอผู้มีความช่ำชองการสร้างคอนเทนท์เขย่าขวัญในยุคนี้ โดยหนังก็มีกลิ่นความเป็นหนัง Slasher ธรรมดา แต่ว่าปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงและก็หยอดกล่าวโทษคอมเมดี้เข้าไป เพิ่มเสน่ห์ด้วยกิมไม่กความ Nostalgia ที่กำลังนิยมสำหรับการแทรกสอดเข้าไปในคอนเทนท์ของยุคนี้
รายละเอียดของหนังบางทีอาจจะมิได้มีอะไรใหม่ ก็เดิมตามหมากสูตรสำเร็จที่รู้จักดีของหนังแนวไล่ฆ่าและก็การฆาตกรรม แล้วก็การเสาะหาว่าผู้ใดเป็นคนร้ายตัวจริง ถือว่านี่ไม่ใช่พล็อตที่หอมอะไรเยอะแค่ไหนนัก เพียงแต่ว่ามันก็มีเสน่ห์ในตัวของมันเองเหมือนกัน แล้วก็เป็นอะไรที่คงจะคลิกกับผู้ชมได้ยากสักเท่าไหร่